โครงงานวิทยาศาตร์
เรื่อง สีย้อมผ้าผสมยางมะละกอและยางกล้วย
จัดทำโดย
น.ส. เรสิยา ศรสิทธิ์ เลขที่ 24
น.ส. พรกมล ภูมิสุข เลขที่ 18
สาขาคอมพิวเตอร์ 306
ครูที่ปรึกษาการจัดทำโครงงาน
อาจารย์จิตสถา เตชะทวีกุล
กิตติกรรมประกาศ
ขอขอบพระคุณ อาจารย์จิตสถา เตชะทวีกุล ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่กรุณาให้คำแนะนำตลอดเวลาของการดำเนินงานตามจุดประสงค์ของโครงงานที่ได้กำหนดไว้ คณะผู้จัดทำขอขอบพระคุณท่านที่ให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงาน เรื่องผลกระทบของ สีย้อมผ้าผสมยางมะละกอและยางกล้วยน่าจะเกิดประโยชน์ต่อผู้ที่มีความสนใจ
บทคัดย่อ
การศึกษาการติดทนของสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการติดทนของสีบนเนื้อผ๎าจากการใช๎สีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ โดยน าผ๎าฝ้ายมาตัดให๎ได๎ขนาด 6x8 นิ้ว จ านวน 2 ผืน แล๎วน าผ๎าผืนที่ 1 แชํกับสีย๎อมผ๎าที่ผสมกับยางกล๎วย และผ๎าผืนที่ 2 แชํกับสีย๎อมผ๎าที่ผสมกับยางมะละกอ โดยสัดสํวนในการผสมคือยางกล๎วยและยางมะละกออยํางละ 30 มิลลิลิตร ผสมกับสีย๎อมผ๎า ½ ช๎อนชา และน้ าเปลํา 10 มิลลิลิตร ให๎เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นน าผ๎าผืนที่ 1 และผืนที่ 2 ซักในน้ าเปลํา ปริมาณ 30 มิลลิลิตรและตากให๎แห๎งทั้ง 3 ครั้ง สังเกตสีบนผ๎าหลังการซักแตํละครั้ง บันทึกผล ผลการศึกษาพบวําสีผ๎าหลังการซักครั้งที่ 1 สีของผ๎าที่ย๎อมด๎วยยางมะละกอมีสีเข๎มกวําสีของผ๎าที่ย๎อมด๎วยยางกล๎วย สีผ๎าหลังการซักครั้งที่ 2 สีของผ๎าที่ย๎อมด๎วยยางมะละกอสียังคงเข๎มและติดทนสํวนสีของผ๎าที่ย๎อมด๎วยยางกล๎วยนั้นมีสีติดอยูํเพียงเล็กน๎อย สีผ๎าหลังการซักครั้งที่ 3 สีของผ๎าที่ย๎อมด๎วยยางมะละกอสียังคงเข๎มและติดทนสํวนสีของผ๎าที่ย๎อมด๎วยยางกล๎วยนั้นหลุดออกและไมํติดเนื้อผ๎า สรุปได๎วํา สีย๎อมผ๎าผสมยางมะละกอสามารถติดทนบนเนื้อผ๎าได๎ดีกวําสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วย
บทที่1
บทนำ
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
1.1 ที่มาและความส าคัญของโครงงานในชีวิตประจ าวันของเรากล๎วยนับวําเป็นพืชที่ให๎ประโยชน์แกํคนและสัตว์อยํางมากเรารับประทาน ผลกล๎วยสุก ซึ่งให๎คุณคําสารอาหารคาร์โบไฮเดรต เกลือแรํ และวิตามิน น าผลกล๎วยสุกและกล๎วยดิบที่แกํจัด มาแปรรูปเพื่อให๎นํารับประทานมากยิ่งขึ้น เชํน กล๎วยกวน กล๎วยเชื่อม กล๎วยฉาบ ฯลฯ ใบกล๎วยน ามาใช๎หํอขนม เย็บเป็นถาด ใสํอาหาร ใช๎ท าบายศรี ฯลฯ สํวนก๎านใบกล๎วยน ามาเป็นอาหารสัตว์ ท าเชือก ฯลฯ จะเห็นได๎วําทุกสํวนของกล๎วยให๎ประโยชน์มากมาย จึงกลายเป็นจุดเดํนในการสร๎างงานศิลปะที่งดงามจากวัสดุธรรมชาตินั่นคือ "ศิลปะลายผ๎าจากยางกล๎วย" ทางกลุํมสังเกตเห็นวําเมื่อเราน าเอากล๎วยมาใช๎ประโยชน์โดยไมํระมัดระวังยางกล๎วยถ๎าติดบนเสื้อผ๎าแล๎ว จะซักไมํออกจะเป็นสีน้ าตาลติดแนํน จากคุณสมบัติของยางกล๎วยดังกลําวนี้เอง และยังมีผลไม๎อีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์มากมายนั่นคือ มะละกอนับได๎วําเป็นผลไม๎ที่ได๎รับความนิยมสูงและมีประโยชน์ในด๎านตํางๆ กว๎างขวางกวําผล ไม๎ชนิดอื่นๆ แทบทุกชนิด จึงคงไมํผิดความจริงหากเราจะเรียกมะละกอวําเป็นผล ไม๎ยอดนิยมสารพัด ประโยชน์ของชาวไทย เนื่องจากในยางมะละกอมีสารประกอบปาเปนซึ่งเป็นเอนไซม์ชนิดหนึ่งในยางมะละกอซึ่งปกติจะประกอบด๎วยสํวนตําง ๆ ที่มีฤทธิ์เป็น Proteolytic enzyme อยูํ 4 ชนิด คือ Papain, Chymopapain A และ B และ Papaya peptidase A โดย Chymopapain เป็นเอนไซม์ที่พบมากที่สุดในยางมะละกอ รองลงมาคือ Papain ซึ่งมีประมาณต่ ากวําร๎อยละ 10 และ papaya peptidase A มีปริมาณน๎อยที่สุด เอนไซม์ Chymopapain มีความอยูํตัว ทนความร๎อนและทนตํอสภาพกรดได๎ดี และเป็นตัวการส าคัญที่ท าให๎เนื้อมีความนุํม สายพันธุ์มะละกอที่สามารถผลิตน้ ายางสดได๎สูงคือ สายพันธุ์จ าปาด า และแขกด า โดยจะพบยางมะละกอในสํวนที่เป็นใบก๎าน และผลดิบ ซึ่งมีแนวโน๎มที่อาจเป็นไปได๎ ในการกรีดเอายางมะละกอมาใช๎ประโยชน์ เพื่อการอุตสาหกรรมในอนาคต ทางกลุํมจึงสังเกตเห็นวําในการที่จะน ายางมะละกอมาใช๎เป็นสีย๎อมผ๎านั้น นําจะมีความเป็นไปได๎ จึงได๎ท าการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบการติดทนของสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ
1.2 วัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบการติดทนของสีบนเนื้อผ๎าจากการใช๎สีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ1.3 สมมุติฐานสีย๎อมผ๎าจากยางกล๎วยสามารถติดทนบนเนื้อผ๎าได๎ดีกวําสีย๎อมผ๎าจากยางมะละกอ1.4 ตัวแปรที่ศึกษา1.4.1 ตัวแปรต๎น : ยางกล๎วยและยางมะละกอ 1.4.2 ตัวแปรตาม : การติดทนของสีบนเนื้อผ๎า 1.4.3 ตัวแปรควบคุม : ชนิดของสี ปริมาณของสีที่ใช๎ผสม ปริมาณของยางกล๎วยและยางมะละกอ ปริมาณของน้ าที่ใช๎ผสม ระยะเวลาที่ใช๎ย๎อมผ๎าและชนิดของเนื้อผ๎า1.5 ขอบเขตการศึกษา ในการศึกษาครั้งนี้ มีขอบเขตของการศึกษาดังนี้1.5.1 สิ่งที่ศึกษา ยางมะละกอมาจากมะละกอพันธุ์แขกด า ยางกล๎วยมาจากพันธุ์กล๎วยน้ าว๎า 1.5. 2 ระยะเวลาที่ใช๎ในการศึกษาตั้งแตํวันที่ 9 – 11 เดือนสิงหาคม 2554 1.5.3 สถานที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาล าปาง1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.6.1 เพื่อให๎ทราบวิธีการย๎อมผ๎าจากยางกล๎วยและยางมะละกอ1.6.2 เพื่อให๎ทราบการติดทนของสีบนเนื้อผ๎าจากการใช๎สีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ 1.6.3 เพื่อน าวัสดุจากธรรมชาติมาใช๎ให๎เกิดประโยชน์1.6.4 เพื่อน าความรู๎ที่ได๎รับจากการท าโครงงานไปใช๎ประโยชน์ในชีวิตประจ าวันและเผยแพรํให๎ผู๎ที่สนใจ1.6.5 เพื่อใช๎เวลาวํางให๎เกิดประโยชน์1.7 นิยามปฏิบัติการ1.7.1 การติดทนของสีบนเนื้อผ๎า หมายถึง การเปลี่ยนแปลงสีบนเนื้อผ๎าน๎อยที่สุดหลังจากการจุํมผ๎าในสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ1.7.2 สีย๎อมผ๎า หมายถึง สีที่ใช๎ในการย๎อมเส๎นใยของผ๎า มีลักษณะเป็นผลึกหรือผงละเอียด ละลายน้ าได๎1.7.3 ยางกล๎วย หมายถึง ของเหลวที่ไหลออกมาจากต๎นกล๎วยเมื่อเราตัดก๎านกล๎วย ปลีกล๎วยและหนํอกล๎วย 1.7.4 ยางมะละกอ หมายถึง ของเหลวที่ไหลออกมาจากผลของมะละกอดิบหลังการใช๎มีดกรีด
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
2.2 มะละกอ
2.2.1 ประวัติมะละกอ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี( 2553: เว็บไซด์)กลําวถึงมะละกอวํา เราอาจจัดมะละกออยูํในจ าพวกผักที่เรียกวํา “ผักผล” (Fruit Vegetables) เพราะใช๎ผลมาประกอบอาหาร(คาว) เป็นหลัก แม๎จะใช๎สํวนอื่นๆ (เชํน ใบ ยอด) เป็นด๎วยผักได๎ด๎วย แตํใช๎น๎อยกวําผลมาก ผักจ าพวก “ผักผล” นี้มีหลายชนิด เชํน มะเขือ แตงกวา ฟังทอง เป็นต๎น ในบรรดาผัดที่มีอยูํมากมายหลายชนิดนั้น มะละกอนับได๎วําเป็นผักผลที่ได๎รับความนิยมสูงและมีประโยชน์ในด๎านตํางๆ กว๎างขวางกวําผักผลชนิดอื่นๆ แทบทุกชนิด จึงคงไมํผิดความจริงหากเราจะเรียกมะละกอวําเป็นผักผลยอดนิยมสารพัด ประโยชน์ของชาวไทย
บทที่3
วิธีด าเนินการ
3.1 วัสดุ อุปกรณ์
- ยางมะละกอ
จ านวน 30 มิลลิลิตร
-
ยางกล๎วย จ านวน 30 มิลลิลิตร
- ผ๎าฝ้าย ขนาด 6x8 นิ้ว จ านวน 2 ผืน
- สีย๎อมผ๎า สีแดง จ านวน 1 ช๎อนชา
- บิ๊กเกอร์ จ านวน 2 ใบ
- มีด จ านวน 1 เลํม
- กระบอกฉีดยา จ านวน 1 อัน
- น้ าเปลํา จ านวน 200 มิลลิลิตร
- กรรไกร จ านวน 1 อัน
- .ที่คีบน้ าแข็ง จ านวน 1
3.2 วิธีด าเนินการ 1. น าผ๎าฝ้ายมาตัดให๎ได๎ขนาด 6x8 นิ้ว จ านวน 2 ผืน 2. น ายางกล๎วยที่ได๎มาจากการตัดสํวนของก๎านกล๎วย ปลีกล๎วยและหนํอกล๎วย ตวงใสํบิ๊กเกอร์ให๎ได๎ปริมาณ 30 มิลลิลิตร 3. น ายางมะละกอที่ได๎จากการกรีดในสํวนของผล ตวงใสํบิ๊กเกอร์ให๎ได๎ปริมาณ 30 มิลลิลิตร 4. น าน้ ายางกล๎วยและน้ ายางมะละกอมาผสมกับสีย๎อมผ๎าสีแดง ในบิ๊กเกอร์ทั้ง 2 ใบ ปริมาณใบละ ½ ช๎อนชา น าน้ าเปลําใสํลงในบิ๊กเกอร์ทั้ง 2 ใบ ปริมาณใบละ 10 มิลลิลิตร จากนั้นผสมให๎เป็นเนื้อเดียวกัน5. น าผ๎าที่ตัดไว๎ทั้ง 2 ผืน มาแชํเพื่อย๎อมลงในบิ๊กเกอร์ทั้ง 2 ใบ เป็นเวลา 5 นาที 6. น าผ๎าไปซักในน้ าเปลําและตากให๎แห๎งทั้ง 3 ครั้ง สังเกตและบันทึกผลทั้ง 3 ครั้ง
บทที่ 4
ผลการศึกษา
บทที่ 5
5.1 สรุปผลการศึกษาจากการศึกษาเรื่องการติดทนของสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ โดยการน าผ๎าฝ้ายมาจุํมลงในสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ และท าการทดลองเปรียบเทียบการติดทนของสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ ผลการทดลองทั้ง 3 ครั้ง พบวํา สีของผ๎าที่จุํมลงในสีย๎อมผ๎าผสมยางมะละกอติดทนบนเนื้อผ๎าได๎ดีกวําสีของผ๎าที่จุํมลงในสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วย สรุปได๎วํา สีย๎อมผ๎า ผสมยางมะละกอสามารถติดทนบนเนื้อผ๎าได๎ดีกวําสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วย5.2 การอภิปรายผล การน าผ๎าฝ้ายมาย๎อมสีผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ และท าการทดลองเปรียบเทียบการติดทนของสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอ สรุปได๎วํา สีย๎อมผ๎าผสมยางมะละกอสามารถติดทนบนเนื้อผ๎าได๎ดีกวําสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วย เนื่องจากยางมะละกอมีคุณสมบัติของปาเปนเป็นเอนไซม์ที่พบมากที่สุดในยางมะละกอ ซึ่งมีความอยูํตัว ทนความร๎อนและทนตํอสภาพกรดได๎ดีโดยนิยมใช๎ในอุตสาหกรรมการฟอกหนัง โดยผสมปาเปนในน้ ายาแชํหนังจะท าให๎หนังเรียบ และนุํม สํวนในอุตสาหกรรมทอผ๎า จะใช๎ปาเปนฟอกไหมให๎หมดเมือกจึงท าให๎สีย๎อมผ๎าผสมมะละกอติดทนบนเนื้อผ๎าได๎ดีกวําสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วย 5.3 ข้อเสนอแนะ1.ควรน าผ๎าชนิดอื่นมาท าการทดลองเพื่อทดสอบวําผ๎าชนิดใดมีการติดทนของสีย๎อมผ๎าผสมยางกล๎วยและยางมะละกอได๎ดีกวํา2.ควรทดสอบน าสีย๎อมผ๎าผสมยางผลไม๎ชนิดอื่นเพื่อท าการทดสอบการติดทนของสีบนเนื้อผ๎าที่ดีที่สุด